ขับขี่ปลอดภัยในช่วงหน้าฝน การขับขี่พาหนะบนท้องถนนในช่วงหน้าฝน ย่อมไม่เกินผลดีแน่ๆ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถขับได้ วิธีการ ” ขับขี่ปลอดภัยในช่วงหน้าฝน ” นั้นมีมากมาย ขึ้นอยู่ที่ความถนัดและความชำนาญของแต่ละบุคคล รวมไปถึงสภาพผิวของท้องถนนที่เราใช้ขับขี่ด้วย หากถามถึงความปลอดภัยในช่วงหน้าฝน แน่นอนว่าทำได้ค่อนข้างยากต่อให้เราระมัดระวังเป็นอย่างดี แต่ก็อาจจะมีรถคันอื่นที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ ดังนั้นหากเราต้องการเชฟทั้งรถเราและรถผู้อื่นก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธี ไปดูวิธีพร้อมๆกันเลย
1. เช็คสภาพรถ ควรเช็คให้พร้อมรับมือกับทุกๆสถานะการณ์ไม่ใช่แค่เฉพาะหน้าฝนจะดีที่สุด เพราะการเช็คสภาพรถนั่นมีสิ่งจำเป็น ที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ได้แก่ ยางรถยนต์ เนื่องจากดอกยางรถยนต์นั้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยในการรีดน้ำ เพื่อไม่ให้รถเกิดอาการเหินน้ำ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบว่าดอกยางยังคงมีเหลือเพียงพอหรือไม่ ( ต้องไม่ต่ำกว่า 2 มิลลิเมตร ) และที่ปัดน้ำฝน หากได้ทดสอบการใช้งานแล้ว ยังคงเหลือคราบน้ำเกาะอยู่บนหน้ากระจกอยู่จนทำให้เสียทัศนวิสัย ก็ควรรีบเปลี่ยนทันที และควรตรวจสอบด้วยว่าไม่มีการฉีกขาดของตัวยาง และระดับน้ำในหม้อพักน้ำฉีดกระจกนั่น ควรเติมให้เต็มอย่างสม่ำเสมอ

2. ใช้สัญญาณไฟของรถ ควรเปิดไฟหน้ารถควบคู่ไปด้วย แม้ว่าจะเป็นเวลากลางวันก็ตาม ทั้งนี้เพื่อให้รถคันอื่นสามารถสังเกตเห็นรถของคุณได้ง่ายขึ้น และช่วยเพิ่มความปลอดภัย ส่วนไฟตัดหมอกหน้าและหลังนั้น ควรเปิดเมื่อฝนตกหนักจริงๆ และควรรีบปิดเมื่อฝนเบาลง หรือ หยุดแล้ว และควรใช้ที่ปัดน้ำฝนอยู่ตลอดเพื่อไม่ให้น้ำจากกระจกบดบังทัศนวิสัยมากจนเกินไป

3.เว้นระยะจากคันหน้า ควรเว้นระยะให้มากกว่าเดิมเพราะสภาพผิวบนพื้นถนนอาจจะลื่น จนทำให้มีผลต่อการเบรคของรถในแต่ละคันได้ และในทางที่ดีควรขับขี่ในความเร็วที่พอเหมาะ เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้สามารถหยุดรถได้ทันที

4.เลี่ยงแอ่งน้ำ ในแต่ละครั้งเราจะเห็นได้ว่ามีรถหลายคันที่ขับรถผ่านแอ่งน้ำขังด้วยความเร็วสูง นั่นอาจทำให้รถเกิดอาการเสียหลักได้ สิ่งที่ควรทำ คือ หากเราเห็นแอ่งน้ำจากระยะไกล ควรชะลอความเร็วลง เพื่อไม่ให้รถของเราเหินน้ำจากความเร็วของรถ แต่หากไม่สามารถชะลอความเร็งลงได้ สิ่งที่ไม่ควรทำ คือการเหยียบเบรค หรือ เพิ่มความเร็วเพื่อให้ผ่านแอ่งน้ำไปไวๆ เพราะอาจทำให้รถเสียการควบคุม และเมื่อพ้นแอ่งน้ำจึงจะสามารถเหยียบคันเร่งต่อไปได้ หรือ หากพอที่จะหักหลบได้ก็ควรหลบอย่างปลอดภัยดีที่สุด

5.การเหยียบเบรค เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ในรถยนต์สมัยใหม่มักติดตั้งระบบป้องกันล้อล็อค หรือ เอบีเอสมาให้ ซึ่งจะช่วยบังคับทิศทางของพวงมาลัยได้ และใช้ระยะในการเบรคสั้นลง แต่ระบบเอบีเอสจะทำงานต่อเมื่อเหยียบเบรคกระทันหันอย่างแรง และแป้นเบรคจะมีอาการสะท้านเป็นจังหวะจนรู้สึกได้ ซึ่งถือเป็นอาการปกติของระบบ จึงควรเหยียบเบรคอย่างต่อเนื่องและมั่นคงเพื่อให้หยุดรถได้อย่างรวดเร็วที่สุด แต่อย่างไรก็ตามในขั้นตอนนี้ควรศึกษาและทำให้ถูกวิธีเพื่อป้องกันความปลอดภัยของตัวเองและผู้อื่นด้วย

ขับขี่ปลอดภัยในช่วงหน้าฝน ในช่วงฝนตกทุกวันและเริ่มเข้าสู่หน้าฝนถือเป็นฤดูที่มีส่วนทำให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ทั้งหมดนี้คือ ข้อควรระวังที่อยากให้ทุกคนจำใส่ใจไว้เสมอเมื่อต้องขับรถในช่วงหน้าฝน และเพื่อลดอันตรายจากอุบัติเหตุต่างๆที่เกิดขึ้นด้วย นอกจากที่น้ำฝนจะทำให้ถนนลื่น ทำให้ระยะเบรครถยาวกว่าปกติ ยังส่งผลให้ผู้ขับขี่มองเห็นทางได้ค่อนข้างลำบาก ดังนั้น ข้อมูลที่นำมาให้ได้ดูกันนั้น ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้รถทุกท่าน ควรตรวจสอบความพร้อมทุกๆอย่าง และใช้สติให้มากๆ เพื่อความปลอดภัยของทุกท่านบนท้องถนน
ด้วยความปรารถนาดีจาก เพจ ประกันรถถูกๆ ต่อง่ายๆ คุ้มครองเลย
สาระน่ารู้เรื่อง ประกันรถยนต์ที่ จริงจัง จริงใจ จริงจริง ♥
สนใจซื้อประกันรถยนต์ คลิ๊ก