ดอกยางรถ แต่ละลวดลาย ทำหน้าที่อะไรบ้าง

ดอกยางรถ แต่ละลวดลาย ทำหน้าที่อะไรบ้าง ดอกยางรถยนต์นั้นมีไว้เพื่อยึดเกาะถนนและรีดน้ำขณะขับรถเมื่อถนนเปียก เพื่อให้หน้ายางนั้นสัมผัสพื้นถนนทำให้การเดินทางนั้นสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยและไม่ลื่นออกถนน นอกจากนี้ ยางยังทำหน้าที่กระจายน้ำหนักให้รถยนต์ โดยหน้ายางจะทำหน้าที่กระจายแรงทั้งหมดไปยังทิศทางต่างๆ สู่ผิวถนน ยางรถยนต์ทุกชนิดจะมีดอกยาง ยกเว้นยางรถยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันทางเรียบและความเร็วสูง ที่พื้นถนนต้องแห้ง ซึ่งยางประเภทนี้เรียกว่า สลิ้ก (Slick)ดอกยางรถยนต์

ดอกยาง คือ ส่วนบริเวณบนหน้ายาง และมีหน้าสัมผัสถนนตลอดเวลาที่รถวิ่ง

ร่องยาง คือ ร่องที่ลึกลงไปจากหน้ายาง หรือร่องที่อยู่ระหว่างยาง

ยางรถยนต์ที่ใช้งานบนถนนที่เรียบ ดอกยางควรเป็นดอกละเอียด ร่องยางไม่ห่าง เพื่อไม่ให้เสียพื้นผิวสัมผัสกับหน้าถนนมากจนเกินไป สามารถรีดน้ำออกได้อย่างรวดเร็ว และมีเสียงรบกวนน้อย

ประเภทของดอกยาง
จะมี 4 ประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน

1.ดอกยางละเอียด (Rib Pattern) ลักษณะของดอกยางประเภทนี้คือเป็นแนวยาวบนหน้ายางตามวงรอบของยาง ซึ่งจากลักษณะของดอกยางทำให้มีการสูญเสียหน้าสัมผัสจากร่องยางกับพื้นถนนไม่มาก รวมทั้งยังสามารถรีดน้ำได้รวดเร็ว และมีเสียงรบกวนน้อย เหมาะกับรถที่ขับบนทางเรียบ

2.ดอกยางแบบบั้ง (Lug Pattern) ตามชื่อที่ดอกยางประเภทนี้จะมีลักษณะบั้งเป็นแนวขวางบนหน้ายางหรือขวางเส้นรอบวงของยาง การที่ดอกยางถูกออกแบบในลักษณะนี้ก็เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการตะกุย เหมาะสำหรับการใช้งานในถนนที่ขรุขระ แต่ก็สามารถใช้งานบนถนนทั่วไปที่ความเร็วต่ำได้ นอกจากนี้ดอกยางแบบบั้งยังมักมีร่องยางที่ลึกเพื่อให้มีอายุการใช้งานที่นาน

3.ดอกยางแบบผสม (Rib Lug Pattern) เป็นประเภทของดอกยางที่ผสานลักษณะของดอกยางแบบละเอียดและแบบบั้งไว้ด้วยกัน เพื่อให้มีจุดเด่นของดอกยางทั้งสองชนิด โดยทั่วไปแล้วดอกยางแบบผสม มักจะมีดอกยางแบบละเอียดอยู่บริเวณพื้นที่ตรงกลางของหน้ายาง โดยมีดอกยางแบบบั้งขนาบที่ขอบหน้ายางทั้ง สองด้าน ด้วยการผสานทั้งดอกยางแบบละเอียดและแบบบั้งไว้ด้วยกัน จึงทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับรถที่ใช้งานทั้งบนทางเรียบและทางขรุขระสลับกัน

4.ดอกยางแบบบล็อก (Block Pattern) ดอกยางแบบบล็อกจะมีลักษณะของดอกยางเป็นก้อนหรือจุดซึ่งมีทั้งที่เป็นบล็อกเหลี่ยมหรือกลม ดอกยางในลักษณะนี้จะมีประสิทธิภาพในการตะกุยสูง จึงทำให้เหมาะสำหรับรถที่ใช้งานแบบลุยหนักหรือใช้บนเส้นทางที่มีความโหดอย่างรถออฟโรด

ลักษณะของลายดอกยาง 4 ลักษณะ

1.ดอกยาง 2 ทิศทาง (Non Directional) ดอกยางประเภทนี้จะสามารถทำการสลับยางได้ทุกตำแหน่ง ลักษณะมีดอกยางสวนทางกัน จึงไม่เน้นในเรื่องของความเร็วสูงมากนัก แต่ก็ใช้ได้อย่างสะดวกสบาย

2.ดอกยางทิศทางเดียว (Directional) ดอกยางจะมีลักษณะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งยังมีสัญลักษณ์ลูกศร (Rotation) แสดงไว้ที่บริเวณแก้มยาง เพื่อบ่งบอกถึงตำแหน่งของทิศทางของการหมุนของล้อให้เราสามารถใส่ได้อย่างถูกต้อง ดอกยางประเภทนี้ ถูกออกแบบมาให้สามารถรีดน้ำได้ดีกว่าประเภทแบบ Non-Directional เพื่อควบคุมการขับขี่ได้อย่างมั่นคงและสามารถใช้ความเร็วสูงได้ดี

3.ดอกยางแบบสมมาตร (Symmetric) เป็นลักษณะของดอกยางที่มักพบเห็นในยางส่วนใหญ่ทั่วไป คือมีลักษณะดอกยางและร่องยางที่ต่อเนื่องทั่วพื้นที่หน้ายาง โดยหากแบ่งพื้นที่บนหน้ายางเป็นสองส่วนลวดลายในแต่ละส่วนจะเหมือนกันทุกประการ

4.ดอกยางแบบไม่สมมาตร (Asymmetric) เป็นลักษณะของดอกยางที่มีลายดอกยางทั้งสองฝั่งไม่เหมือนกัน หรือลายดอกยางด้านในและด้านนอกมีความแตกต่างกัน ที่ดอกยางมีลักษณะนี้เนื่องจากถูกออกแบบเพื่อให้หน้ายางด้านในมีประสิทธิภาพสูงสุดในการขับทางตรง และเมื่อใช้ความเร็วสูง ในขณะที่ดอกยางด้านนอกจะให้การยึดเกาะถนนได้ดีเมื่อเข้าโค้ง จึงทำให้เหมาะสำหรับที่มักเข้าโค้งที่ความเร็วสูง

ดอกยางรถ แต่ละลวดลาย ทำหน้าที่อะไรบ้าง หลายๆ ท่านอาจจะเคยสงสัย ว่าดอกยางรถของเราที่มีลวดลายมากมายนั้นแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งดอกยางแต่ละวงก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปน่ะครับ ดังนั้น ยิ่งช่วงหน้าฝนแบบนี้ การตรวจเช็กดอกยางก็เป็นปัจจัยที่สำคัญในการขับขี่ได้อย่างปลอดภัย เมื่อเข้าใจลักษณะดอกยางรถยนต์แล้ว คุณก็ควรหมั่นตรวจสอบดอกยางรถยนต์ของคุณให้พร้อมใช้งานทุกสถานการณ์ พร้อมลุยในทุกๆพื้นที่น่ะครับ!!

ด้วยความปรารถนาดีจาก เพจ ประกันรถถูกๆ ต่อง่ายๆ คุ้มครองเลย

สาระน่ารู้เรื่อง ประกันรถยนต์ที่ จริงจัง จริงใจ จริงจริง ♥

สนใจซื้อประกันรถยนต์ คลิ๊ก