คันเร่งค้าง ต้องทำอย่างไร เคยคิดกันเล่นๆไหมว่า หากเราขับรถไปอยู่ดีๆ แล้วเกิด “คันเร่งค้าง” จะแก้ไขแบบไหน และ คันเร่งค้าง ต้องทำอย่างไร กันล่ะ..? เพราะเราทุกคนนั่นเชื่อเสมอว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะร้ายแรงขนาดไหน และในวันนี้เลยอยากขอนำเอาความรู้เรื่องการใช้รถของกรณีคันเร่งค้างมาบอกกล่าวกัน เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับทุกๆคน และเพื่อให้ทุกคนได้มีความพร้อมในระดับนึ่งหากเกิดเหตุขึ้นจริงๆ ไปดูกันเล๊ยยยยยยยย
“รถคันเร่งค้าง” เกิดขึ้นได้จากหลายๆ สาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น สายคันเร่งฝืดเพราะเกิดสนิม , ลิ้นเร่งฝืดค้างเพราะฝุ่นเกาะมากเกินไป , มีสิ่งของไปติดค้าง เช่น ขวดน้ำหรือร้องเท้าส้นสูง , พรมหรือยางรองพื้นรถที่หนาไปเข้าไปติดคันเร่ง , ระบบคันเร่งไฟฟ้าทำงานผิดปกติ เป็นต้น สิ่งแรกเลย ตั้งสติค่ะ อย่างโวยวายและตกใจ อย่าเข้าใจผิดว่าการดับเครื่องยนต์เลยทันทีจะทำให้เครื่องยนต์หยุดทำงานและรถหยุดเคลื่อนตัวและตัวเองปลอดภัย ฉะนั้น ห้าม!!! ดับเครื่องเด็ดขาด เพราะพวงมาลัยรถยนต์จะล็อคทันที รวมถึงระบบผ่อนแรงเบรกจะหยุดทำงานตามไปด้วย ทำให้ควบคุมทิศทางของรถไม่ได้ สำหรับปัญหารถคันเร่งค้างในปัจจุบันส่วนใหญ่จะไม่ค่อยพบปัญหาที่นี้เท่าไร โดยส่วนใหญ่จะเกิดจากการใช้รถเกินลิมิตได้แก่ เหยียบเบรกตลอดเวลาขณะลงเขาจนเบรกร้อนจัด หรืออยากจะเกิดจากความผิดพลาดจากอุปกรณ์ที่เราติดในรถไม่ว่าจะเป็น กล่องสัญญานกันขโมยที่ติดอยู่เหนือคันเร่ง จนทำให้เกิดเหตุการณ์คันเร่งค้าง และเมื่อเกิดสภาวะนี้ขึ้นหลายคนก็จะสติหลุด ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะควบคุมอย่างไรดี อาจร้ายแรงจนถึงขั้นเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
เหตุที่ก่อให้เกิดอาการ “คันเร่งค้าง”
1. เหยียบคันเร่งแทนเบรก เมื่อเกิดอาการตกใจแบบกระทันหันจากการขับรถ
2. กรณีคนขับเป็นผู้หญิง แล้วใส่รองเท้าส้นสูง อาจทำให้ส้นรองเท้าไปขัดกับคันเร่งได้
3. ปัญหาคันเร่งจมหรือค้าง ทำให้แป้นเบรกแข็งจนไม่สามารถใช้เบรก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของระบบตัวรถ เพื่อป้องกันการเหยียบเบรกพร้อมคันเร่ง
4. เบรกจมหรือเบรกแตก ทำให้ไม่สามารถห้ามล้อได้
5. เบรกแข็งเกินไปเนื่องจากหม้อเบรกมีปัญหา
6. ขวดน้ำหรือสิ่งของที่อยู่ในรถไปขัดไว้
7. พรมปูรถเคลื่อนเข้าไปติดที่ซอกคันเร่ง
วิธีแก้ปัญหา ” คันเร่งค้าง ”
1. เมื่อประสบปัญหาคันเร่งค้างควรตั้งสติให้ดี และทำการเปิดไฟฉุกเฉินไว้ก่อน เพื่อป้องกันรถคันอื่นๆ และทำการเปลี่ยนเกียร์รถ หากเป็นเกียร์ออโต้ ให้เหยียบเบรกแล้วเข้าเกียร์ว่าง หรือ ตัว N ไว้ เพื่อช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์ที่ส่งไปยังเกียร์ แต่ถ้าเป็นรถยนต์เกียร์ธรรมดา ให้เหยียบคลัตช์ตัดเป็นเกียร์ว่าง แล้วปล่อยรถเคลื่อนตัวไปช้าๆ สลับกับการแตะเบรกเป็นระยะ
2. จากนั้นค่อยๆหมุนกุญแจ หรือ กดปุ่ม ดับเครื่องยนต์ตามลำดับ (กรณีที่รถรุ่นนั้นๆ มีปุ่มล็อค ห้ามหมุนไปที่จุดคำว่า Lock ล็อค เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นพวงมาลัยจะล็อค เกิดอันตรายเพิ่มขึ้น เพราะเราจะไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนทิศทางของรถได้ ) ในขณะที่ดับเครื่องยนต์แล้ว ไม่ควรดึงกุญแจออกจากรถโดยทันทีเด็ดขาด เพราะถ้าหากดึงกุญแจออกทันทีจะทำให้สลักล็อคพวงมาลัยทำงาน ทำให้ไม่สามารถเลี้ยวรถได้เมื่อต้องการ
3. เวลาที่เหยียบเบรกเพื่อช่วยลดความเร็ว ถ้าเป็นเบรกระบบ ABS ให้เหยียบเบรกค้างไว้ แต่ถ้าเป็นเบรกระบบธรรมดาให้เหยียบๆ ปล่อยๆ เพื่อป้องกันการล็อคของล้อ
4. ให้พยายามนำรถจอดริมข้างทางในบริเวณที่ปลอดภัย ด้วยการปิดสวิตช์การทำงานของเครื่องยนต์ โดยสามารถทำได้เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วต่ำ และต้องใช้เบรกมือชะลอความเร็วควบคู่กันไปด้วย ห้าม! ดึงกุญแจหรือปิดสวิตช์เครื่องยนต์ขณะรถกำลังวิ่ง เพราะจะทำให้พวงมาลัยล็อกจนไม่สามารถบังคับทิศทางรถได้ พอลดความเร็วของรถอยู่ในระยะที่ผู้ขับขี่เห็นว่าปลอดภัยแล้ว ให้ใช้เท้าลองงัดคันเร่งขึ้นมา แต่ถ้างัดแล้วคันเร่งไม่ขึ้น ให้เล็งหาที่จอดรถเพื่อทำการแก้ไขอย่างจริงจัง ซึ่งในระหว่างจอดรถนั้นต้องใช้เบรกมือช่วยชะลอความเร็วไปด้วย
5. แต่ในกรณีที่ไม่สามารถเบรกรถได้ทัน ควรประคองรถไปยังจุดที่มีความแข็งแรงมากที่สุดเพื่อทำการหยุดรถ โดยเลือกใช้ฝั่งที่ไม่มีคนนั่งเข้าชน อาจจะอันตรายและมีเจ็บตัวบ้าง แต่ก็คงจะดีกว่าที่ปล่อยให้รถอยู่ในความเร็วที่อันตรายกับตัวเองและผู้อื่นมากจนเกินไป เพราะจะก่อให้เกิดความสูญเสียมากไปกว่าเดิมได้
แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้ปัญหาคันเร่งค้างไม่ลามไปถึงการเกิดอุบัติเหตุได้คือ “สติ ” เพราะถ้าหากผู้ขับมีสติมากพอเมื่อเกิดปัญหาแล้วปฏิบัติตามที่เราแนะนำ ก็จะสามารถช่วยให้ตัวเราเองและผู้อื่นปลอดภัยได้ และอีกสิ่งที่สำคัญก็คือ การตรวจเช็ครถก่อนออกจากพื้นที่ คือสิ่งที่ควรทำให้เป็นความเคยชิน เพราะอุบัติเหตุ มันเกิดขึ้นได้ตลอด ไม่ว่าจะเกิดจากเราหรือบุคคลอื่น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตได้ด้วยกันทั้งนั้น อย่าเอาความประมาณของตัวเราเองมาทำให้เกิดความสูยเสียที่จะตามมาทีหลังนะคะ ดังนั้น ควรปลอดภัยไว้ก่อน จะได้หายห่วงเน้ออออออ
ด้วยความปรารถนาดีจาก เพจ ประกันรถถูกๆ ต่อง่ายๆ คุ้มครองเลย
สาระน่ารู้เรื่อง ประกันรถยนต์ที่ จริงจัง จริงใจ จริงจริง ♥
สนใจซื้อประกันรถยนต์ คลิ๊ก






