ขับรถขึ้นลงเขา ด้วยเกียร์ออโต้ เชื่อว่าการขับรถขึ้นลงเขา หรือ ทางลาดชัน เป็นปัญหาหลักๆสำหรับใครหลายๆคน และรถยนต์สมัยนี้ ต้องเลือกใช้รถยนต์ด้วยระบบเกียร์ออโต้กันทั้งนั้น ด้วยความสะดวกสบายในการขับขี่ แต่หลายๆ คนที่ใช้เกียร์ออโต้นั้นต่างก็ใช้เพียงแค่เกียร์ D ในการขับทั้งนั้น แต่การขึ้นเขาและลงเขานั้น จำเป็นต้องมีการเลือกใช้เกียร์ให้เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยนะครับ เราจะพาทุกคนไปดูวิธีการขับเกียร์ออโต้ที่ดีและปลอดภัยกันนะครับ
ขับรถขึ้นเขา และ ลงเขา ต้องใช้เกียร์ต่ำเท่านั้น
เกียร์ต่ำ (เกียร์ที่อยู่ในช่วงเกียร์ 1-2) เป็นเกียร์ที่ทำให้เครื่องยนต์มีความถี่สูง สามารถเร่งความเร็วของรถได้ดี ทำให้รถสามารถพุ่งตัวได้ดีในช่วงแรก ซึ่งจะเป็นการดีสำหรับผู้ที่ขับรถยนต์ในเส้นทางลาดหรือทางชัน เพราะ ต้องใช้ความเร่งเครื่องสูงแต่ว่าความเร็วของรถยนต์ต่ำ เพื่อให้สามารถควบคุมการทรงตัวของรถในทางลาดหรือทางชันได้ง่ายกว่าเกียร์ที่ความเร็วแบบปกติ หากจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย ก็เหมือนกับการที่เราเดินขึ้นทางชัน ที่ต้องใช้กำลังขามากกว่าปกติ การใช้เกียร์ต่ำจึงเป็นเหมือนการที่เราใช้แรงจากขามากขึ้นเพื่อไต่ทางชัน หลังจากที่เราหลุดพ้นทางชันมาได้เราจึงสามารถวิ่งในความเร็วปกติได้
เกียร์ไหนที่ใช้ขึ้นเขาและลงเขาได้บ้าง?
โดยปกติแล้วทุกๆคนก็คงใช้เกียร์ D ซึ่งรถยนต์ที่ใช้เกียร์ออโต้นั้น จะต้องมีเกียร์นี้ทุกคันอย่างแน่นอน แต่เกียร์อื่นๆ นั้นก็จะมีไปตามแต่ยี่ห้อรถนั่นเองครับ เช่น เกียร์ S,L,B,D3,D2 ซึ่งในแต่ละคันก็จะมีต่างกันไปครับ แต่เกียร์เหล่านี้ก็สามารถใช้ และมีคุณสมบัติที่ไม่ได้ต่างกัน เพียงแค่รถแต่ละยี่ห้อผลิตและเรียกต่างกันเท่านั้นเอง
- การขับขึ้นเขา – ให้ใช้เกียร์ D2 หรือ เกียร์ L ในการขับขึ้นเขาและลงเขา แทนเกียร์ 1 หรือ เกียร์ 2 ในเกียร์ธรรมดา เมื่อพ้นทางชัน ควรสลับมาขับที่ เกียร์D ไม่ควรลากเกียร์ต่ำเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักจนเครื่องดับกลางทางได้
- การลงเขา – หากเป็นทางที่มีความลาดชันมากให้เปลี่ยนจากเกียร์ D มาขับที่ เกียร์D2 หรือ เกียร์ L แทน แต่ไม่ควรเปลี่ยนเกียร์ขณะฝนตกทางลื่น เพราะอาจทำให้รถเสียการทรงตัวได้
*** ข้อควรระวัง การเลือกใช้เกียร์ผู้ขับควรดูสภาพของถนนและเส้นทางที่ใช้เป็นหลัก เพราะ รถยนต์แต่ละรุ่น มีระบบเกียร์อัตโนมัติแตกต่างกัน ดังนั้นควรประเมินสภาพของเส้นทางและรถยนต์ก่อนขับขี่ถนนด้วย รวมถึงผู้ขับขี่ควรมีความชำนาญกับเส้นทางและตัวรถยนต์เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
วิธีขับรถขึ้นเขา ??
สามารถใช้ D เพื่อใช้ในการขับขึ้นเขาได้โดยปกติ แต่หากขับไปแล้วเส้นทางมีการลาดชันเกิดขึ้นจนทำให้เครื่องยนต์เริ่มตกลงมา ทำให้ขับต่อไปไม่ค่อยไหว คุณสามารถใช้เกียร์ D3 หรือ เกียร์ S แทนได้นะครับ เพราะการใช้เกียร์เหล่านี้ เป็นเกียร์ต่ำจึงทำให้อัตราการเร่ง และรถยนต์มีกำลังมากขึ้น และสามารถผ่านขึ้นเข้าได้อย่างต่อเนื่อง และผ่านไปได้ด้วยความปลอดภัย และหลังจากที่ผ่านช่วงที่เส้นทางสูงชันแล้วก็สามารถสลับมาใช้เกียร์ Dได้ดังเดิม
วิธีขับรถลงเข้า ??
การขับรถลงเขานั้นยากกว่าขับรถขึ้นเขาเป็นอย่างมาก และมีความเสี่ยงอันตรายมากกว่าการขับรถขึ้นเขามาก โดยคุณจะใช้เบรคเพื่อชะลอความเร็วเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะจะทำให้เบรคไหม้ได้ และห้ามเบรคบ่อยเกินไปอีกด้วย ดังนั้นคุณจึงควรใช้เกียร์ต่ำเข้าช่วย เพื่อให้เครื่องยนต์นั้นช่วงดึงกำลัง และเป็นการใช้เอนจิ้นเบรค (Engine Brake) นั่นเอง โดยคุณสามารถใช้เกียร์ D ได้ในกรณีที่ทางลงเขาไม่ได้ชันมากนัก แต่ถ้าเกิดเริ่มรู้สึกว่าทางลงนั่นชันมากขึ้นก็สามารถเปลี่ยนมาใช้เกียร์ D2 เกียร์ L หรือเกียร์ B และการใช้เกียร์ต่ำนั้นจะทำให้เครื่องยนต์ช่วยฉุดกำลังรถให้เคลื่อนที่ช้าลง เป็นการเบาแรงเบรกไปได้มากนะครับ
หากมีกลิ่นไหม้ !!!
หากคุณขับรถขึ้นเขา หรือ ลงเขา แล้วเกิดได้กลิ่นเหม็นไหม้ขึ้นมา แนะนำให้คุณรีบนำรถยนต์ของคุณเข้าไปจอดในที่ที่ปลอดภัยทันที เพราะกลิ่นเหม้นไหม้นั้นอาจจะเกิดขึ้นมาจากเครื่องร้อนมากเกินไป หรือเกิดเบรคไหม้เกิดขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสาเหตุไหนก็เป็นอันตรายอย่างยิ่งครับ
ขับรถขึ้นลงเขา ด้วยเกียร์ออโต้ การใช้เกียร์ต่างๆ นั้นสามารถช่วยให้คุณขับรถยนต์ขึ้นเขาและลงเข้าได้อย่างปลอดภัยและลดอุบัติเหตุได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในด้านของอุบัติเหตุก็ยังมีอีกหลายๆปัจจัยที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ การรู้วิธีการขับรถขึ้นเขาและลงเขาแล้ว ก็ใช้ว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุ หากเราไม่คุ้นชินกับเส้นทาง ไม่ชำนาญทาง หรือเป็นมือใหม่ในการขับรถ ก็ขอแนะนำว่า อย่าเสี่ยงที่จะขับขึ้นเขาและลงเขาเลยดีกว่า เพราะหากเกิดอะไรขึ้น มันจะไม่คุ้มกับสิ่งที่เราสูญเสียไปนะครับ
ด้วยความปรารถนาดีจาก เพจ ประกันรถถูกๆ ต่อง่ายๆ คุ้มครองเลย
สาระน่ารู้เรื่อง ประกันรถยนต์ที่ จริงจัง จริงใจ จริงจริง ♥
สนใจซื้อประกันรถยนต์ คลิ๊ก