fbpx

jjjinsur.com ประกันรถถูกๆ ต่อง่ายๆ คุ้มครองเลย

รถไฟฟ้า EV มีกี่ประเภท

รถไฟฟ้า EV มีกี่ประเภท

รถไฟฟ้า EV มีกี่ประเภท ในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าในท้องตลาดจะแบ่งเป็น 4 ประเภทหลักๆ ได้แก่ ไฮบริด (HEV) , ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) , แบตเตอรี่ (BEV) , และรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน หรือ รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง ซึ่งต้องบอกว่า แต่ละประเภทถูกออกแบบมาให้เข้ากับหลากหลายการใช้งานของคนในุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากเราเข้าใจและศึกษาการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้า ก็จะสามารถใช้งานได้อย่างดี และ ปลอดภัย รวมถึงการออกแบบของรูปลักษณะภายในและภายนอก มีความทันสมัยและดูดีไม่แพ้รถยนต์ทั่วไปได้เลย และเพื่อให้เราได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น ก็ควรจะรู้ถึงการทำงานและที่มาของทั้ง 4 ประเภทให้ชัดเจน โดยเราได้ทำการสรุปและนำมาให้ได้ดูกัน รวมถึง ในส่วนของข้อดีและข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย


รถไฟฟ้า EV มี 4 ประเภท ดังนี้

1.ยานยนต์ไฟฟ้าไฮบริด หรือ (HEV, Hybrid electric vehicle) รถยนต์ไฮบริด เป็นยานยนต์ไฟฟ้าแบบลูกผสม (Hybrid) มีทั้งเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปและมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ จึงมีความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำกว่ายานยนต์ปกติ รถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริดนั้น จะไม่สามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟได้ แต่จะใช้พลังงานจลน์ที่ได้จากเครื่องยนต์เปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าแล้วนำมาเก็บไว้ในแบตเตอรี่ เพื่อนำมาจ่ายเป็นพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าต่อไป เราเรียกกระบวนการนี้ว่า การสนับสนุนการเบรกแบบผันกลับ (Regenerative braking) รถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริดเหมาะกับการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรติดขัด ทำให้ต้องเหยียบคันเร่งสลับกับเหยียบเบรกเป็นประจำ เพราะจะช่วยให้ในช่วงที่รถติด รถยนต์จะไม่ต้องสิ้นเปลืองการใช้น้ำมันมาก ซึ่งช่วยลดการปล่อยมลภาวะได้มาก

2.ยานยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน (PHEV, Plug-in Hybrid Electric Vehicle) เป็นยานยนต์ไฟฟ้าที่พัฒนาต่อยอดมาจาก HEV ซึ่งมีการทำงานทั้ง 2 ระบบ (น้ำมันและไฟฟ้า) แต่เพิ่มระบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟขึ้นมา (plug-in) การอัดประจุไฟฟ้าจากภายนอกและนำมาเก็บไว้ที่แบตเตอรี่นั้น ทำให้ PHEV สามารถวิ่งได้ในระยะทางที่ไกลกว่า HEV รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานผสมแบบเสียบปลั๊กจะเหมาะกับคนที่อยากใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แต่ยังจำเป็นที่จะต้องเดินทางไกลข้ามจังหวัด หรือเดินทางไปในจังหวัดที่ยังไม่มีการชาร์จรถไฟฟ้า จึงทำให้การใช้งานรถยนต์ประเภท PHEV ตอบโจทย์มากที่สุด

3.ยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV, Battery Electric Vehicle) เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่มีการปล่อยไอเสียออกมาเลย เนื่องจากเป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และใช้พลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้า ซึ่งมาจากการเสียบปลั๊กชาร์จไฟฟ้าอย่างเดียว ไม่มีการปล่อยมิลพิษทางอากาศจากยานยนต์โดยตรง แต่จะมีข้อจำกัดตรงที่ต้องชาร์จพลังงานไฟฟ้าก่อนใช้งานทุกครั้ง และจะต้องคำนวณระยะทางการเดินทางต่อพลังงานไฟฟ้า และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ดี รถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่จะเหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง หรือขับในระยะทางใกล้ ๆ มากกว่าระยะไกล ซึ่งถ้าหากจำเป็นต้องเดินทางไกลด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ก็จำเป็นที่จะต้องศึกษาเส้นทางและสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้ดี เพื่อที่จะได้วางแผนการชาร์จไฟได้อย่างเหมาะสม และไม่เกิดปัญหาพลังงานไฟฟ้าหมดกลางทาง

4.ยานยนต์พลังงานไฮโดรเจน หรือ รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV, Fuel Cell Electric Vehicle) เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก แต่จะแตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าประเภทอื่นตรงที่ใช้เทคโนโลยีไฮโดรเจนในการผลิตพลังงานไฟฟ้า โดยไฮโดรเจนจะถูกเก็บอยู่ในรูปแบบของเหลว หลังจากนั้นจะถูกส่งไปที่แผงเซลล์ร่วมกับอากาศที่มีออกซิเจน เพื่อทำปฏิกิริยาในการสร้างไฟฟ้า หลังจากนั้นไฟฟ้าจะถูกส่งไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่เพื่อใช้เป็นพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าต่อไป จึงทำให้รถยนต์ประเภทนี้ต้องเติมพลังงานไฮโดรเจนแทนการชาร์จไฟ แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าประเภทเซลล์เชื้อเพลิงเพลิงจะเหมาะกับการใช้งานทั่วไป แต่ในปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้ยังมีต้นทุนการผลิตที่สูงอยู่ จึงทำให้ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ของทั้งไทยและต่างประเทศ อีกทั้งยังไม่ค่อยเหมาะที่จะใช้ในประเทศไทย เนื่องจากยังไม่ค่อยมีสถานีเติมไฮโดรเจนเปิดให้บริการ


จากการสรุปของ รถไฟฟ้า EV มีกี่ประเภท ก็เชื่อได้ว่า คงพอให้หลายๆคนพอเข้าใจและตัดสินใจเลือกประเภทให้ตรงกับการใช้งานของตัวเองกันได้แล้ว แต่หากใครที่ยังไม่ทราบถึงข้อดีและข้อเสียที่ชัดเจน ก็คงยังไม่กล้าพอที่จะหันมาใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า เพราะฉะนั้น เราจะพาทุกคนมาศึกษาถึงข้อดีข้อเสียที่เราได้สรุปมาให้จากหลายๆความคิดเห็นกัน

ข้อดีของการใช้ รถ EV

  1. ไม่มีการปล่อยไอเสีย หรือ ควัน จากท่อ
  2. มีเสียงเครื่องยนต์ที่เงียบ เบา ไร้การรบกวน
  3. ประหยัดในส่วนของการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือ แม้กระทั้งในส่วนของ การเติมน้ำมันที่ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆในปัจจุบัน



ข้อเสียของการใช้ รถ EV

  1. ราคาที่ซื้อขายยังสูง เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ต้องใช้เทคโนโลยีเป็นหลักจึงทำให้ราคาอาจจะไม่หนักไปสำหรับกลุ่มคนที่ต้องการ
  2. รถยนต์ไฟฟ้ามีการทำงานในรูปแบบของการชาร์จไฟ จึงอาจจะทำให้การเดินทางไม่สะดวกสักเท่าไหร่
  3. สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย



ด้วยความปรารถนาดีจาก เพจ ประกันรถถูกๆ ต่อง่ายๆ คุ้มครองเลย

สาระน่ารู้เรื่อง ประกันรถยนต์ที่ จริงจัง จริงใจ จริงจริง ♥

สนใจซื้อประกันรถยนต์ คลิ๊ก

Scroll to Top