fbpx

jjjinsur.com ประกันรถถูกๆ ต่อง่ายๆ คุ้มครองเลย

เทคนิคแก้ง่วง ในการขับรถทางไกล

เทคนิคแก้ง่วง ในการขับรถทางไกล

เทคนิคแก้ง่วง ในการขับรถทางไกล สำหรับใครที่ต้องขับรถเป็นประจำ หรือต้องขับรถเป็นระยะทางไกลๆ อยู่บ่อยๆ อาจเคยเกิดอาการง่วงเวลาขับรถกันใช่ไหมล่ะคะ ซึ่งถ้าฝืนขับรถไปทั้งที่ง่วงๆ ต่อไปก็คงจะไม่ดีแน่ๆ อาจเกิดอาการหลับในและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้ง่ายๆ ง่วงแล้วขับ ถ้ายังไม่หาวิธีแก้ไขและยังคงฝืนขับต่อไป เพียงเสี้ยววินาทีข้างหน้าอาจทำให้ชีวิตของคุณไม่ตายก็อาจพิการได้ ถ้ารู้ตัวว่าง่วงขณะขับรถให้รีบ ๆ จอดข้างทางเพื่อพักฟื้นสภาพเสียก่อนเป็นดีที่สุด การรีบไปให้ถึงจุดหมายแบบง่วง ๆ ไม่ดีแน่ๆครับ เรามีบอกทริคเล็กๆน้อยของการแก้ง่วงกันหน่อยดีกว่าครับ


วิธีแก้ง่วง ขณะขับรถเดินทางไกล

1. จอดหลับ 20 นาที สละเวลาจอดพัก 20 นาทีเพื่องีบ  อย่าฝืนขับรถต่อไปเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอาการหลับในได้ ทางที่ดีจอดรถให้ร่างกายได้พักบ้าง จะได้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า เป็นการชาร์ตพลังร่างกายที่ดีที่สุด จากนั้นร่างกายคุณจะเฟรชขึ้นพร้อมไปต่อได้อีกยาว

2. เปิดเพลงให้ดังหรือเสียงที่ชอบ เปิดเพลงในรถให้ดังเข้าไว้ ผลจากการทดลองหลายเสียงบอกว่า การถูกรบกวนด้วยเสียงดัง ๆ จะช่วยปลุกให้คุณตื่นได้ดีขึ้นขณะขับรถ ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ อัดเสียงเพลง เสียงพูดเล่าเรื่องต่าง ๆ เสียงนกร้อง ฝนตก หรือใด ๆ ก็ตามแต่ที่คุณโปรด แล้วนำมาเปิดในรถระหว่างการขับ ความสุนทรีย์เหล่านี้จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินและขับรถได้ไม่น่าเบื่อชวนง่วงอีกต่อไป

3. ขนมเบา ๆ หรือ หาอะไรเปรี้ยวๆ ทานแก้ง่วง ลองหาอะไรที่มีรสเปรี้ยวมาทานแก้ง่วง ไม่ว่าจะเป็น ผลไม้รสเปรี้ยว ลูกอม หรือ บ๊วย ของหมักของดอง เพราะว่าของเปรี้ยวๆ ช่วยกระตุ้นประสาทให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า และหายง่วงได้ แต่หากใครไม่ชอบทานอะไรเปรี้ยวๆ ก็อาจหาเป็นขนมขบเคี้ยว ลูกอม หรือ หมากฝรั่ง มาทานเล่นคลายหิว และทำให้ร่างกายตื่นตัว  มีผลวิจัยบอกว่าการกินอาหารปริมาณ 100 แคลอรี่ จะสามารถช่วยกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัวได้เป็นอย่างดี และขนมขบเคี้ยวชั้นดีที่เหมาะในการช่วยปลุกคุณให้ตื่นขณะขับรถก็คือ เมล็ดทานตะวันนั่นเอง

4. ขับเมื่อพร้อมเท่านั้น ความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ การใช้ถนนร่วมกับผู้อื่น ควรต้องมีความรับผิดชอบในส่วนของตัว หากรู้ว่าร่างกายมีสภาพไม่พร้อมควรหยุดขับทันที อย่าคิดแค่ว่าไหว เพราะที่บาดเจ็บที่ตายกันมากก็มาจากง่วงจากหลับในนี่ล่ะ และช่วงเวลาตี 2 – ตี 5 นี่ไม่ควรขับรถ เพราะเค้าบอกกันว่าเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายไม่ตื่นตัวเอาซะเลย

5. กาแฟสักถ้วย แวะดื่มกาแฟสักถ้วย คาเฟอีนจะช่วยกระตุ้นให้คุณตื่นมีแรงขับรถต่อไปได้อีกกว่า 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่กระนั้นก็ไม่ควรดื่มเกิน 4 ถ้วย เพราะฤทธิ์ของคาเฟอีนจะเป็นอันตรายต่อการขับรถได้ และสำหรับผู้ไม่อินไม่ดื่มกาแฟ ชาเขียวแก้วโต ๆ ก็พอจะแทนกันได้

6. เคี้ยวน้ำแข็ง อีกเทคนิคนึงที่ช่วยแก้ง่วงได้ ก็คือการเคี้ยวน้ำแข็ง ย้ำว่าต้อง “เคี้ยว” อย่าปล่อยให้ละลายในปากไปเฉย ๆ ทั้งความเย็นและการออกแรงเคี้ยวจะช่วยเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี สามารถช่วยปลุกคุณจากความง่วงได้เป็นชั่วโมง ๆ เลยทีเดียว

7. ปลุกความง่วงด้วยความเย็น หรือถ้าอยากสดชื่น ให้หาเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้ว ไม่ว่าจะเป็น กาแฟ ชา น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวยิ่งขึ้น หรือจะแวะเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา ก็ช่วยได้ หรือจะใช้ผ้าเย็นชุบน้ำแข็ง หรือผ้าเย็นธรรมดาเช็ดตามใบหน้า ท้ายทอย แขน และข้อพับ ก็สดชื่นไม่แพ้กัน

8. รักษาความชุ่มชื้นไว้เสมอ ถ้าคุณรู้ตัวว่าต้องขับรถทางไกล หาน้ำดื่มเตรียมไว้เยอะ ๆ เลย เพราะการรักษาความชุ่มชื้นในร่างกายไว้ได้เป็นหนทางหนึ่งที่ช่วยลดอาการเหนื่อยล้า และอาการง่วงนอนได้ หากรู้สึกร้อน เหนื่อยล้า เหมือนจะง่วงขณะขับรถ ก็จิบดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ จะช่วยคลายง่วงได้

9. ยืดเส้นยืดสายกันหน่อย การขับรถนานๆ ก็อาจทำให้เหนื่อย และง่วงนอนได้ ยังไงแล้วแนะนำให้จอดพักรถ ยืดเส้นยืดสาย กันสักหน่อย ลงมาบิดตัว แกว่งแขน สะบัดมือ สะบัดหัว ให้ร่างกายได้คลายความเมื่อยและความเหนื่อยล้า หรือจะใช้มือนวดไปตามแขนขาให้เลือดได้ไหลเวียน ก็ช่วยให้สดชื่นและตื่นตัวได้ดีเช่นกัน

10. ปิดแอร์ในรถแล้วเปิดกระจก อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ง่วงได้ นั่นก็คือให้ปิดแอร์รถยนต์ แล้วเปิดกระจกให้อากาศถ่ายเท ลมจากธรรมชาติที่กระทบหน้าจะทำให้รู้สึกเย็นสดชื่น ตาสว่างมากยิ่งขึ้น

11. งดกินยาที่ทำให้ง่วงซึม ไม่ว่าจะขับรถใกล้หรือไกลแค่ไหนก็ตาม คุณต้องไม่ควรรับประทานยาที่มีผลทำให้เซื่องซึมและง่วงนอน หากคุณป่วยและจำเป็นต้องทานยาเหล่านั้นก็ไม่ควรขับรถเลยจะดีกว่า

12. สูดหายใจลึก ๆ แค่ 4 ครั้ง การหายใจเข้าปอดผ่านทางจมูกแบบลึก ๆ และผ่อนออกช้า ๆ เพียง 4 ครั้ง เป็นเทคนิคที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความง่วงได้เป็นอย่างดี แถมยังเป็นการดึงสติทำสมาธิให้แน่วแน่อยู่กับการขับรถที่ดีอีกด้วย

13. อย่าเปิดแอร์แรง อากาศเย็นสบาย ๆ มักชวนเคลิ้มชวนง่วงเสมอ การขับรถในบรรยากาศเย็นสบายก็จะไม่ต่างอะไรกับการนั่งชิว ๆ เย็น ๆ พร้อมจะหลับไปทุกเมื่อ คุณควรปรับความอุณหภูมิในรถให้ไม่ต้องเย็นสบายมาก เพื่อเป็นการกระตุ้นระบบประสาทสามารถตื่นตัวได้ดี

14.สลับกันขับรถกับเพื่อน แต่ถ้าใครที่มาเพื่อนที่ขับรถเป็นนั่งมาด้วยกัน ก็อาจให้เพื่อนมาช่วยสลับกันขับรถ คนละครึ่งทางก็ได้ จะได้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ไม่เหนื่อยคนใดคนหนึ่งมากเกินไป

15. วางแผนการเดินทาง เมื่อคุณต้องขับรถไกล ๆ การวางแผนที่ดีรอบคอบจะช่วยให้คุณไม่ต้องเจอกับปัญหาการง่วงขณะขับ หรือการหลับในได้ เพราะคุณจะรู้ดีว่าคุณขับได้ทนแค่ไหน กี่ชั่วโมงควรพัก เพื่อไม่เป็นการฝืนร่างกายให้เหนื่อยล้าจนอาจเกิดเป็นอุบัติเหตุได้

16. วิตามินซี 500 Mg ช่วยได้ หากขับรถไปได้จนรู้สึกได้ถึงความเหนื่อยล้า เริ่มจะอ่อนแรงและอยากนอนหลับ กระตุ้นความสดชื่อนให้กลับคืนมาได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายด้วยการ กินวิตามินซีขนาด 500 Mg เพียง 1 เม็ด เท่านั้น ความเหนื่อยอ่อนจะค่อย ๆ เบาบางไป ใครเหนื่อยง่ายง่วงง่ายมีความเสี่ยงสูงต่อการหลับใน ซื้อมาติดรถด่วน ๆ กันเลย


โอ๊ยยยยยย ……. ขับรถทางไกลทีไรก็หนีไม่พ้นปัญหาความง่วงที่มากวนใจทุกที เผลอแปปๆ ก็เคลิ้ม หนังตาเริ่มคล้อย แต่จะหลับไม่ได้เด็ดขาด! ใครที่เคยมีโมเม้นท์แบบนี้ ก็แวะมาอ่าน เทคนิคแก้ง่วง ในการขับรถทางไกล กันได้นะครับ ลองเอาไปปรับใช้กันดู ใครถนัดแบบไหน ก็ทำกันแบบนั้นเลยครับ อย่าลืมกันนะครับ ขับขี่ปลอดภัย ต้องเริ่มจากที่ตัวเราก่อนครับ เย้!


ด้วยความปรารถนาดีจาก เพจ ประกันรถถูกๆ ต่อง่ายๆ คุ้มครองเลย

สาระน่ารู้เรื่อง ประกันรถยนต์ที่ จริงจัง จริงใจ จริงจริง ♥

สนใจซื้อประกันรถยนต์ คลิ๊ก

Scroll to Top