ควรขับรถผ่านทางรถไฟอย่างไร ถึงจะปลอดภัย จะเห็นได้ว่า..เส้นทางจุดตัดทางรถไฟเป็นเส้นทางที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเอามากๆ และมักจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตอยู่บ่อยครั้ง เราจะเห็นได้จากตามข่าวที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เหตุการ์ณในแต่ละครั้งมักเกิดจากความไม่คุ้นเคยและความไม่ชำนาญเส้นทางของผู้ขับขี่ และขาดทักษะ รวมทั้งความประมาทในการขับรถผ่านทางข้ามรถไฟ จุดตัดทางรถไฟ หรือ ทางข้ามทางรถไฟ หรือ บางทีก็เกิดจากการที่ไม่มีสัญญาณหรือไม้กั้นสำหรับเตือนผู้ขับขี่รถทั่วๆไปให้ทราบก่อนที่รถไฟจะมา ถือเป็นบริเวณเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงเอามากๆ ดังนั้นผู้ขับขี่รถยนต์และผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เมื่อต้องสัญจรผ่าน และไม่ควรละเลยหลักพื้นฐานเพื่อความปลอดภัยและข้อปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดทุกครั้งด้วย เพราะอุบัติเหตุที่เกิดจากทางนี้ มักจะทำสร้างความสูญเสียมากมายเสียเราเองก็คาดไม่ถึง วันนี้เราจะพาทุกท่านไปเรียนรู้ข้อกฎหมายและข้อควรปฎิบัติกันนะคะ ไปดูกันเลย !!!
ข้อกฎหมายข้อบังคับในการขับรถผ่านทางรถไฟ
การขับขี่รถฝ่าฝืนสัญญานเตือนของรถไฟมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก หากฝ่าฝืน มีโทษปรับเป็นเงินตามข้อกำหนด และหากการขับขี่รถฝ่าฝืนสัญญานเตือนรถไฟนำไปสู่อุบัติเหตุ ถ้าผู้ขับขี่ไม่เสียชีวิตก็อาจจะถูกการรถไฟแห่งประเทศไทยฟ้องเรียกร้องค่าความเสียหายที่เกิดกับตัวรถไฟ รางรถไฟ และค่าเสียหายที่เกิดจากการที่รถไฟไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติอีกด้วย นอกจากนี้หากอุบัติเหตุดังกล่าว เป็นเหตุให้ผู้ที่โดยสารมาในรถไฟหรือผู้อื่นที่ใช้รถใช้ถนนอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายประมาท ก็อาจจะถูกดำเนินคดีในข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือได้รับอันตรายสาหัส หรือถึงแก่ความตาย โดยมีโทษสูงสุดตามข้อกำหนดทางกฎหมาย และยังต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าปลงศพ และค่าความเสียหายอื่นๆ อีกด้วย สำหรับการขับขี่รถผ่านทางรถไฟหรือจุดตัดทางรถไฟ มีหลักปฏิบัติกำหนดเป็นกฎหมายตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 ใน 2 มาตรา คือ
มาตรา 62
ในทางเดินรถตอนใดที่มีทางรถไฟผ่าน ถ้าปรากฏว่า
(1) มีเครื่องหมายหรือสัญญาณระวังรถไฟแสดงว่ารถไฟกำลังจะผ่าน
(2) มีสิ่งปิดกั้นหรือมีเจ้าหน้าที่ให้สัญญาณแสดงว่ารถไฟกำลังจะผ่าน
(3) มีเสียงสัญญาณของรถไฟหรือรถไฟกำลังแล่นผ่านเข้ามาใกล้อาจเกิดอันตรายในเมื่อจะขับรถผ่านไป
!! ผู้ขับขี่ ต้องลดความเร็วของรถและหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่าห้าเมตร เมื่อรถไฟผ่านไปแล้วและมีเครื่อง หมายหรือสัญญาณให้รถผ่านได้ ผู้ขับขี่จึงจะขับรถผ่านไปได้
มาตรา 63
ในทางเดินรถตอนใดที่มีทางรถไฟผ่านไม่ว่าจะมีเครื่องหมายระวังรถไฟหรือไม่ ถ้าทางรถไฟนั้นไม่มี สัญญาณระวังรถไฟหรือสิ่งปิดกั้น ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วของรถและหยุดรถห่างจากทางรถไฟในระยะไม่ น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงจะขับรถผ่านไปได้
หลักการปฎิบัติในการขับรถผ่านทางรถไฟ
1.หากต้องขับรถผ่านทางข้ามรถไฟให้เพิ่มความระมัดระวัง และโดยเฉพาะหากขับในเส้นทางที่ไม่ชำนาญ เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะทางข้ามที่ไม่มีแผงกั้นทางรถไฟ รวมถึงการขับรถในช่วงกลางคืนที่ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ดีควรระมัดระวังเป็นพิเศษ สำหรับผู้ขับขี่ที่สัญจรผ่านทางรถไฟเป็นประจำ อาจเกิดความคุ้นเคยเกี่ยวกับช่วงเวลาที่รถไฟจะผ่านมา กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความประมาท และลดหย่อนความระมัดระวังลงโดยไม่รู้ตัว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาจมีรถไฟขบวนที่ไม่ได้แล่นตามตารางเวลา หรือมีการปรับเปลี่ยนกำหนดการเดินทาง ฉะนั้นก่อนจะขับรถผ่านทางรถไฟ จึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุดทุกครั้ง
2.ระมัดระวังได้ด้วยการหมั่นสังเกตป้ายเตือนสัญลักษณ์ทางรถไฟ หรือสังเกตลูกระนาด ว่าเส้นทางข้างหน้ามีจุดตัดทางรถไฟหรือไม่ เพื่อให้ระมัดระวังในการขับขี่เพิ่มขึ้น ควรชะลอความเร็วและหยุดรถก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟ พร้อมมองซ้ายและขวาจนแน่ใจจึงค่อยขับรถข้ามจุดตัดทางรถไฟ และหากมีสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางรถไฟ ไม่ควรหยุดหรือจอดรถคร่อมรางรถไฟเป็นอันขาด เพราะหากมีรถไฟวิ่งผ่านมา จะไม่สามารถเคลื่อนรถได้ทัน หลังจากปฏิบัติตามหลักโดยถูกต้องจนขบวนรถไฟแล่นผ่านไปแล้ว นั่นไม่ได้หมายความว่าสามารถขับรถผ่านทางรถไฟได้ทันที แต่ผู้ขับขี่ยังจะต้องตรวจตราเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ว่ามีรถไฟอีกขบวนหนึ่งแล่นสวนทางมาหรือไม่ ซึ่งเกิดขึ้นได้ในกรณีที่บริเวณจุดตัดทางรถไฟนั้นเป็นแบบรางคู่
3.เมื่อมีสัญญาณไฟเตือนว่ารถไฟกำลังมา และแผงไม้กั้นจะค่อยๆ ปิดลงมา ผู้ขับขี่ ควรหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟในระยะไม่ต่ำกว่า 5 เมตร ไม่ควรเร่งความเร็วและข้ามทางรถไฟขณะไม้กั้นค่อยๆ ปิดลง เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติร้ายแรงได้ หากมองจากริมทางรถไฟในระยะไกล อาจเป็นไปได้ว่าเราจะมองรถไฟค่อย ๆ แล่นช้า ๆ แต่นั่นเป็นเรื่องของมุมมองที่หลอกสายตา แต่ความจริงแล้วรถไฟก็จะแล่นด้วยความเร็วและมาถึงบริเวณจุดตัดรางรถไฟเร็วกว่าที่คาด ดังนั้นความเสี่ยงที่จะขับรถผ่านโดยไม่รอให้รถไฟแล่นผ่านไปก่อน ถือได้ว่าเป็นความประมาทอย่างรุนแรงเช่นกัน
4.โดยทั่วไปแล้ว ตัวโบกี้รถไฟจะมีขนาดใหญ่มากกว่าขนาดของรางรถไฟทั้งสองฝั่งเกินกว่า 1 เมตร นั่นหมายความว่าแม้จะไม่ได้หยุดรถกีดขวางทางรถไฟ แต่อยู่ใกล้เกินไปก็อาจจะไม่พ้นจากอันตรายเช่นกัน ดังนั้นควรปฏิบัติตามกฎหมาย นั่นคือหยุดรถให้ห่างจากทางรถไฟอย่างน้อย 5 เมตร
5.กฎเหล็กที่สำคัญที่สุดเวลาขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟก็คือ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามห้ามหยุดรถขวางทางรถไฟเด็ดขาด ซึ่งกรณีนี้มักเกิดขึ้นในสภาพจราจรที่รถค่อย ๆ แล่นต่อกันไปแล้วเกิดติดขัด ดังนั้นก่อนจะขับรถผ่านทางรถไฟต้องรอจนแน่ใจว่ารถคันหน้าแล่นผ่านไปแล้ว และไม่อยู่ในระยะที่กีดขวางรถของเรา
6.ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน รถดับขณะข้ามทางรถไฟ สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือผู้ขับขี่และทุกคนในรถต้องออกจากรถให้เร็วที่สุด จากนั้นหาวิธีแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่หากเป็นกรณีที่มีรถไฟกำลังแล่นมาถึงบริเวณจุดตัดทางรถไฟด้วย ยิ่งต้องรีบเคลื่อนที่ออกจากที่เกิดเหตุให้ไกลที่สุดจนอยู่ในระยะปลอดภัย หรือควรหาที่กำบัง เนื่องจากเมื่อการชนเกิดขึ้นอาจเกิดการระเบิด และมีเศษวัสดุที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรงได้
ควรขับรถผ่านทางรถไฟอย่างไร ถึงจะปลอดภัย ไม่ว่าทางรถไฟนั้น จะเป็นทางแบบมีเครื่องกั้น ,ไม่มีเครื่องกั้น แต่ถ้ามีป้ายเตือน กระทั่งทางแบบลักผ่าน เพื่อความปลอดภัยของท่าน ผู้ขับขี่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษในการขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟ โดยเฉพาะการขับรถในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ควรหยุดรถและมองซ้ายมองขวาจนแน่ใจว่าไม่มีรถไฟวิ่งผ่านมาอย่างแน่นอนแล้วจึงค่อยขับรถผ่านจุดตัดทางรถไฟไป และที่สำคัญคือ เทคโนโลยีปัจจุบันอย่างระบบนำทางด้วย Google maps หรือ GPS มีรายละเอียดเส้นทางที่ต้องการจะไประบุไว้ในแอพฯ แบบครบครันแล้ว ก่อนเดินทางไปยังเส้นทางที่ท่านไม่รู้จัก ท่านควรตรวจสอบเส้นทางผ่านแอพฯ นี้ จะช่วยการเดินทางของท่านให้ไปได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัยมากขึ้น หรือบางท่านอาจจะบอกว่า บางทีแอพพวกนี้ก็พาเราหลงทางได้ ทางแก้ไขที่ดีที่สุด เราก็ควรศึกษาหาข้อมูลในหลายๆทางและเพิ่มความระมัดระวังเข้าไปอีกนะคะ เพื่อความปลอดภัยทั้งของเราและบุคคลอื่นๆนะคะ
ด้วยความปรารถนาดีจาก เพจ ประกันรถถูกๆ ต่อง่ายๆ คุ้มครองเลย
สาระน่ารู้เรื่อง ประกันรถยนต์ที่ จริงจัง จริงใจ จริงจริง ♥
สนใจซื้อประกันรถยนต์ คลิ๊ก
